เคล็ดไม่ลับการอัพค่าตัวนักบัญชี

ทำบัญชีแทบตายทำไมไม่รวยซักที?

คำถามเชิงบ่นที่มักได้ยินหลายๆ คนบ่นกันอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเวลาหน้าปิดงบ ที่อะไรๆ ก็ประดังประเดเข้ามาในเวลาเดียวกัน จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า “ทำงานหนักหนาสาหัสขนาดนี้ ทำไมถึงไม่รวยซักทีนะ?”

---------

จริงๆ แล้วคำตอบของคำถามนี้หลายๆ คนคงรู้กันอยู่ในใจแล้วก็เป็นได้

เริ่มแรก เราลองมาทำความเข้าใจสมการง่ายๆ ตรงนี้กันค่ะ

รายได้ = จำนวน (Quantity) x ราคา (Price)

รายได้ของเราเกิดจากสมการข้างต้น ที่มีตัวแปรเพียงแค่สองตัวมาเกี่ยวข้องเท่านั้นเองค่ะ คือ จำนวนลูกค้าที่เรารับ และ ราคาค่าบริการทำบัญชี

ทุกวันนี้ผู้ทำบัญชีส่วนใหญ่พยายามที่จะหาลูกค้าให้ได้มากๆ หรือพยายามที่จะเพิ่ม Quantity ในสมการข้างต้น แต่การที่จะให้ได้มาซึ่งลูกค้าจำนวนมากๆ ในสมัยนี้นั้นเป็นสาเหตุทำให้ผู้ทำบัญชีหลายๆ คนแข่งขันโดยวิธีการกดราคา คือ ยอมที่จะรับเงินจำนวนน้อยลงต่องานปริมาณเท่าเดิม

การกดราคาค่าบริการให้ต่ำๆ นั้น ส่งผลเสียต่อผู้ทำบัญชีในระยะยาว ทำให้งานที่ต้องทำเดือนต่อเดือนล้นทะลัก จนบางทีทำแทบไม่ไหว หรือบางครั้งทำไปแบบผิดๆ ถูกๆ เพราะไม่มีเวลามาตรวจทานให้เรียบร้อยเสียก่อน สุดท้ายได้เงินมาก็ไม่ได้มากมายอะไร และก็ต้องมาจบตรงคำบ่นที่ว่า “ทำบัญชีแทบตายทำไมไม่รวยซักที?”

---------

แต่หากมองในมุมกลับกัน จากสมการตัวเดิมนั้น ถ้าเราเพิ่มรายได้จากการตั้งราคาที่สูงขึ้นหน่อยและเลือกรับลูกค้าในจำนวนที่เหมาะสมมันจะดีกว่าไหม?

แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะเพิ่มค่าบริการ หรืออัพค่าตัวอย่างไรล่ะถึงจะมีคนมาจ้าง?

ถ้าทุกวันนี้เรายังทำงานเดิมๆ คือ ทำบัญชีและยื่นภาษีแบบเดิมๆ ที่ใครๆ เค้าทำกันจะมาคิดค่าตัวแพงๆ ก็คงทำไม่ได้ จริงมั้ยคะ

คำตอบสำหรับปัญหานี้ก็คือ เราอาจจะต้องเพิ่มความพยายามเข้าไปอีกสักหน่อย ซึ่งเรียกว่า “การเพิ่มมูลค่า” ให้กับงานของเรา ทำให้มีประโยชน์และแตกต่างจากคนอื่น ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือ การที่ลูกค้าพึงพอใจและกลับมาใช้บริการเราอีก ถึงวันนั้นแล้วการเพิ่มค่าตัวนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่ใช่ปัญหา

วันนี้เรามาดูกันค่ะว่า เคล็ดไม่ลับการอัพค่าตัวนักบัญชี 5 ข้อง่ายๆ นั้นมีอะไรกันบ้าง


ข้อที่ 1 ช่วยกำจัดข้อบกพร่อง

ทุกๆ วันที่เราทำบัญชีให้ลูกค้า เรารู้อยู่แล้วว่าในงบการเงินรายเดือนของเค้ามีอะไรที่ผิดปกติหรือบกพร่องบ้าง เช่น ต้นทุนค่าขนส่งสูงเกินไปสำหรับบางเดือน เราควรที่จะบอกลูกค้าเพื่อที่เค้าจะได้รู้และควบคุมรายการเหล่านั้น การทำให้ตัวเลขในบัญชี Speak out หรือพูดออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับกิจการ อธิบายให้ผู้บริหารเข้าใจ นี่แหละเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการต้องการอย่างยิ่ง


ข้อที่ 2 รู้เรื่อง Cash flow สำคัญที่สุด

การที่เราให้คำแนะนำเรื่องการบริหารจัดการกระแสเงินสดของกิจการได้นั้นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมากกับกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ SMEs ที่เงินทุนยังมีน้อยและเจ้าของกิจการต้องคอย support ตลอดเวลา การที่เราบอกผู้บริหารได้ว่าเงินที่ได้มาในกิจการมาจากทางใดบ้าง และออกไปจากเรื่องใดบ้าง รวมทั้งการ Guide เรื่องการวางแผนเกี่ยวกับเงินสดให้พวกเค้าได้นั้น น่าจะสร้างความประทับใจให้พวกเขาได้ไม่น้อย


ข้อที่ 3 ภาษีส่วนบุคคลต้องแม่น

มีผู้ประกอบการไม่น้อยที่ขอให้เราบริการกรอกแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อนำส่งสรรพากร จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่ใช่แค่ช่วยกรอกแบบภาษีเฉยๆ แต่เราแนะนำการวางแผนภาษีบุคคลธรรมดาให้กับพวกเขาด้วยใน Package งานบริการของเรา เช่น แนะนำเรื่องฐานภาษี ค่าลดหย่อนต่างๆ การลงทุนใน LTF หรือ RMF ที่จะช่วยให้พวกเขาประหยัดภาษีส่วนบุคคลได้ด้วย


ข้อที่ 4 ต้องแนะนำเทคนิคการสร้างความมั่งคั่งได้

นอกจากการทำบัญชีธรรมดา การให้คำปรึกษาในเรื่องการลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ผู้ประกอบการนั้นเป็นอีกเรื่องที่นักบัญชีอย่างเราทำได้ เพียงแค่หาเวลาศึกษาความรู้เพิ่มเติม เราก็อาจจะสามารถแนะนำกองทุนดีๆ หรือวิธีการคัดเลือกหุ้นหรือกองทุนให้กับผู้ประกอบการก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมว่าเรามีทักษาะในการอ่านงบการเงินซึ่งเป็นพื้นฐานในการช่วยตัดสินใจลงทุน ดังนั้น ถ้าบวกเรื่องความรู้ที่ศึกษาหาเพิ่มเติมแล้ว การแนะนำลูกค้าเรื่องการลงทุนนั้นไม่ใช่เรื่องยากและไกลตัวสำหรับเราแน่นอน


ข้อที่ 5 ช่วยลดภาษี

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการช่วยลูกค้าลดภาษี อันนี้คนละเรื่องกับการช่วยลูกค้าเลี่ยงภาษี การลดภาษีนั้นพูดง่ายๆ คือการวางแผนภาษี ผู้ทำบัญชีที่เก่งเรื่องภาษีนั้นได้เปรียบมาก เพราะลูกค้าเค้ากลัวเรื่องการจ่ายภาษีเยอะมากกว่ากลัวการลงบัญชีผิด ดังนั้น หากเราช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีได้ มีหรือที่ลูกค้าจะไม่ปลื้ม และเราจะทำสิ่งนี้ได้ดีก็ต่อเมื่อ เราศึกษาหาความรู้อยู่เสมอๆ หรืออย่างน้อยที่สุดแนะนำเค้าทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อที่ว่าในอนาคตลูกค้าจะได้ไม่โดนเรียกเก็บภาษีหรือค่าปรับย้อนหลังนะคะ

---------

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับเคล็ดไม่ลับการอัพค่าตัวนักบัญชี 5 ข้อนี้ ถ้าทำได้ครบทุกข้อและไปขอขึ้นค่าบริการทำบัญชี รับรองว่าไม่มีลูกค้ารายไหนกล้าปฏิเสธแน่นอน

โลกธุรกิจทุกวันนี้มันอยู่ยาก ผู้ทำบัญชีก็ต้องใช้ความพยายามเพิ่มเติมเป็นพิเศษในการหาลูกค้าและรักษาลูกค้าไว้ เพราะบางทีการตั้งความหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมเรื่องการตั้งราคาค่าบริการบัญชีให้เป็นมาตรฐานนั้นอาจจะยาวนานและยากเย็นกว่าการที่เราเริ่มต้นพัฒนาตัวเอง เพิ่มพูนประสบการณ์ และเพิ่มมูลค่างานของตนเองก็เป็นได้ค่ะ

#Thaicpdathome #Thaicpdathomearticle #เคล็ดไม่ลับการอัพค่าตัวนักบัญชี

ขอบคุณที่มา:

http://www.gaaaccounting.com/ten-ways-for-accountants-to-add-value/

https://www.linkedin.com/pulse/20140722100801-68349314-the-8-best-ways-accountants-can-add-value

source: www.cpdacademy.co